แนวโน้มในอนาคตของ Retail Store จะนำเทคโนโลยีเข้าไปใช้ช่วยในการบริการลูกค้ามากขึ้นกว่าในปัจจุบัน มีการนำระบบมาทำ Interactive กับลูกค้าเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเพื่อยังผลต่อการเติบโตของธุรกิจ
รูปที่ 1 Next Generation
ดังรายการจะพบว่าเทคโนโลยีที่ได้นำมาใช้จะต้องมีการเชื่อมต่อด้วยปริมาณแบนด์วิดท์ที่มากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับสำนักงานใหญ่ หรือดาต้าเซ็นเตอร์ และผู้ให้บริการคลาวด์เซอร์วิส รวมไปถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่จะต้องเพิ่มเข้ามากกว่าในปัจจุบัน และที่สำคัญที่สุดคือลูกค้าต้องการข้อมูลที่มีความสดใหม่เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือเลือกรับใช้บริการ
แต่ด้วยระบบโครงข่ายในปัจจุบันยังมีการเชื่อมต่อด้วยความเร็วที่ไม่สูงมากนัก ประกอบกับปัญหาด้านการบริหารจัดการอื่นๆ ดังนั้นเพื่อที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าและทีมงานฝ่ายขายของเรา จำเป็นต้องมีแบนด์วิดท์ที่มากเพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่งแนวทางที่สามารถนำไปปฏิบัติได้มีตัวเลือก ดังต่อไปนี้
- Increase MPLS bandwidth
- Internet Broadband (DSL, FTTX, LTE)
- ผสมผสานระหว่าง MPLS และ Internet Broadband (Hybrid WAN)
รูปที่ 2 เปรียบเทียบระหว่าง Internet Broadband และ Internet ผ่าน MPLS/Broadband
ในความจริงการนำ Internet Broadband หรือการทำ Hybrid WAN ด้วยการใช้ Load Balance และ Firewall ก็จะมีประเด็นที่ท้าทายกับทาง CIO และเหล่า IT Manager เช่นด้านการบริหารจัดการ, การรักษาความปลอดภัย, การควบคุมเส้นทาง (Control Traffic Path) รวมไปถึงระยะเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งและการบำรุงรักษา (รวมถึงการ re-configuration ให้เป็นไปตามนโยบายการใช้งานของบริษัท)
รูปที่ 3 Bottle neck Network
ทำไมต้อง SD-WAN ?
เรามองเห็นพัฒนาการของ Internet Broadband Infrastructure หลังจากมีการประมูล 4G LTE ที่เราสามารถสัมผัสได้และรู้สึกถึงได้นั่นคือ ระบบที่มีความเสถียร ความเร็ว คุณภาพสัญญาณและราคาที่เย้ายวล ไม่เพียงแต่ 4G LTE เท่านั้น เราเชื่อว่าทุกคนมองเห็นถึงศักยภาพของ Fixed Broadband อย่างกลุ่ม DSL, FTTX ก็มีการขยายโครงข่ายอย่างรวดเร็ว และราคาต่อ Mbps ที่มันช่างน่าตะครุบเอามาใช้ให้รู้แล้วรู้รอดเลยเสียจริง
เราจึงมีความคิดที่ว่าทำไมเราไม่นำ Internet Broadband จากหลากหลายผู้ให้บริการนำมาใช้งานในองค์กรเพื่อสื่อสารกันระหว่าง Data Center-Head Office-Branch-Business Partner รวมไปถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยตรงล่ะ? ได้ทั้งความเร็วที่สูงขึ้น และด้วยผู้ให้บริการที่หลากหลายรายก็ยิ่งจะทำให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรมากกว่าเดิมอีกด้วย และจะดียิ่งขึ้นถ้ามีเทคโนโลยีที่ดึงเอาความสามารถของ Internet Broadband มาใช้ได้อย่างเต็มที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีนั้นก็คือ SD-WAN โดยสรุปแล้วจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 3 ด้านด้วยกันคือ
SD-WAN ช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้ง 3 ด้านได้อย่างไร?
1. ด้านโครงข่าย
- รองรับการทำงาน Hybrid WAN (MPLS + Internet Broadband) และ Internet as WAN รวมกันเชื่อมต่อได้มากถึง 8 เส้นทาง รองรับโครงข่ายทุกชนิด
- เทคโนโลยี Dynamic Multi Path Optimization (DMPO) จะคอยเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับ Application ที่ใช้งาน รวมไปถึงการทำ Load Balance Traffic ด้วยเช่นกัน
- มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ VoIP และ Video Conference สามารถใช้งานได้ดีบนโครงข่าย Broadband แม้จะมี Packet Loss
2. ด้านการลงทุน และการบำรุงรักษาอุปกรณ์
- BranchConnect เป็นรูปแบบบริการ Monthly Service พร้อมอุปกรณ์และทีมซัพพอร์ท 24×7
- Build-in Cloud VPN, NG Load Balance, Bandwidth Management, Application Firewall, WAN Optimization และ Network Monitoring อยู่บนระบบเดียวกัน
- On the fly Upgrade Firmware
3. ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล
- Zero-Touch Deployment ติดตั้งง่าย ลดค่าใช้จ่ายการเดินทางเพื่อไปติดตั้งและแก้ไขปัญหา
- บริหารจัดการได้ผ่านทาง Central Web Management
- Visibility มากขึ้น และสามารถตรวจสอบการใช้งานได้อย่างง่าย
ยินดีให้คำปรึกษา การนำ SD-WAN ไปใช้ในองค์กรของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
E-Mail: dr.wan@proen.co.th Tel: 02-690-3888
http://www.branchconnect.in.th/
ดาวน์โหลด E-BOOK “SOFTWARE-DEFINED WAN FOR DUMMIES” ได้ที่ http://www.branchconnect.in.th/resources/software-defined-wan-for-dummies/